ราเม็ง อาหารที่คนไทยคุ้นชื่อ และเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยหลายๆคน กับน้ำซุปเข้มข้นหอมๆ ทานในวันฝนตกช่วยเพิ่มบรรยากาศมากขึ้นไปอีกจ้า

ราเม็ง เป็นบะหมี่น้ำของญี่ปุ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ราเม็งมักจะทานคู่กับ เนื้อหมู สาหร่าย คะมะโบะโกะ ต้นหอม และบางครั้งจะมีข้าวโพด ราเม็งมีการปรุงรสแตกต่างกันตามแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น เช่นในเกาะคีวชู ต้นกำเนิดของทงโคสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) หรือในเกาะฮกไกโด ต้นกำเนิดของมิโซะราเม็ง (ราเม็งเต้าเจี้ยว)
ประวัติของราเม็ง

ในประวัติศาสตร์มีบันทึกไว้ว่า โตกุงะวะ มิสึคุนิ ได้รับประทานราเม็งในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในช่วงยุคเมจิ ที่มาของราเม็งเชื่อว่ามาจากประเทศจีน ถึงแม้ว่าไม่มีประวัติศาสตร์บันทึกไว้แน่ชัด สมมุติฐานหนึ่งคือคำว่า “ราเม็ง” มาจากภาษาจีน “ลาเมียน” (拉麺) ที่มีความหมายถึง เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ใช้มือนวด หรือคำอื่นๆ ที่ออกเสียงใกล้กัน เช่น 拉麺 老麺 鹵麺 撈麵
ในยุคเมจิ ราเม็งถูกเรียกว่า “ชินะโซบะ” (支那そば) ซึ่งหมายถึงปาล์มราเม็ง โซบะจีน

ต่อมาชาวจีนได้เริ่มมีการขายราเม็งตามรถเข็นพร้อมกับขายเกี๊ยวซ่าพร้อมกัน และมีการเป่าคะรุเมะระเพื่อเรียกลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันได้มีการอัดเป็นเทปเปิดแทน ราเม็งเริ่มเป็นที่นิยมในยุคโชวะภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แป้งราคาถูกจากสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาสู่ตลาดญี่ปุ่น และขณะเดียวกับที่ทหารญี่ปุ่นได้กลับมาจากการรบที่ประเทศจีน ทหารญี่ปุ่นได้คุ้นเคยกับอาหารจีนมาก่อนทำให้ราเม็งมีการขายได้ดียิ่งขึ้น